ดาบวิชัย ตำรวจ(บ้า) ปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น

0

ดาบวิชัย ตำรวจ(บ้า) ปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น

 

สารคดี ฉบับที่ ๒๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๖

นายดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ ผู้บังคับงานหมู่สอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ วัย ๕๘ ปี กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน เมื่อเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่งนำเรื่องราวชีวิตจริงของ ?คนบ้า? ที่อุทิศเวลาในชีวิตร่วม ๒๐ ปี ก้มหน้าก้มตาปลูกต้นไม้ทุกวันโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มาถ่ายทอดในหนังโฆษณาชิ้นใหม่

เรื่องราวในโฆษณาชิ้นนั้น บอกเล่าชีวิตจริงของนายดาบตำรวจผู้ใช้เวลาว่างจากงานราชการ ออกปลูกต้นไม้ทุกวันตามที่รกร้างว่างเปล่า ไหล่ถนน ที่ดินสาธารณะ ฯลฯ ปลูกโดยที่ไม่มีนายสั่ง ไม่มีค่าตอบแทนใด ๆ จะมีบ้างก็เสียงหัวเราะลอยลมของเด็กๆ และชาวบ้านที่คิดว่าเขาเป็นบ้า

เวลาผ่านไปเกือบ ๒๐ ปี อำเภอปรางค์กู่ซึ่งเคยเป็นอำเภอที่แห้งแล้งยากจนที่สุดในประเทศ กลับร่มรื่นเขียวขจีไปด้วยต้นไม้นานาชนิด โดยเฉพาะต้นตาลที่นับได้ไม่ต่ำกว่า ๒ ล้านต้น ไม่รวมไม้ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าต้นยางนา ต้นคูน ต้นสะเดา ต้นขี้เหล็ก ฯลฯ

ราว ๒ ปีก่อน สารคดี ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ชีวิตของนายดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ นับเป็นครั้งแรกที่สังคมได้รู้จักกับดาบวิชัย–คนบ้าผู้ปลูกต้นไม้ ๒ ล้านต้น อย่างละเอียด หลังจากนั้นชื่อของดาบวิชัยก็เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคม จนดังเป็นพลุแตกเมื่อหนังโฆษณาชิ้นนี้ออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อต้นปีที่ผ่าน มา

ดาบวิชัยกลายเป็นคนดังระดับประเทศ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชนหันมาให้ความสนใจ มอบรางวัลและเกียรติบัตรให้ในฐานะบุคคลผู้มีความซื่อสัตย์และเสียสละ ขณะที่รายการวิทยุโทรทัศน์หลายรายการก็เข้าคิวรอที่จะสัมภาษณ์ชีวิตของนาย ดาบผู้นี้ต่อเนื่องกันมาอีกหลายเดือน

สารคดี ได้พบกับดาบวิชัยอีกครั้งเมื่อเขาเดินทางมารับโล่เกียรติคุณในกรุงเทพฯ และถือโอกาสแวะมาทักทายเราถึงสำนักงาน ดาบวิชัยได้เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวหลายอย่างที่เข้ามาในชีวิต

?ทีมงานที่มาถ่ายทำโฆษณาเขาบอกว่ารู้จักผมใน สารคดี เขาอ่านข้อมูลในนั้นแล้วก็ส่งคนมาหาข้อมูลเพิ่มที่อำเภอปรางค์กู่หลายครั้ง ก่อนจะตกลงกัน จากนั้นเขาก็ยกทีมมาถ่ายทำ ๓ วันติดต่อกัน คนแห่มาดูทั้งอำเภอเหมือนถ่ายหนัง

?หลังจากที่โฆษณาออกฉายทางทีวี บางคนก็ไม่เชื่อว่าผมมีตัวตนจริง แรงเยอร์โปรโมตขึ้นเองหรือเปล่า คนมารู้ว่าผมมีตัวตนจริงๆ ก็เมื่อไปออกรายการ ถึงลูกถึงคน และรายการ ทไวไลท์โชว์ ๒ รายการนี้เป็นรายการที่ทำให้คนเริ่มหันมาสนใจ เพราะเมื่อก่อนนี้ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าผมปลูกต้นไม้ได้เยอะขนาดนี้?

ทุกวันนี้แม้จะกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ดาบวิชัยก็ยังปลูกต้นไม้เหมือนเดิม ยังใช้มอเตอร์ไซค์คู่ชีพที่อายุสิบกว่าปีเป็นพาหนะ บรรทุกเมล็ดพันธุ์ไปปลูกตามที่ต่างๆ แต่ละปีดาบวิชัยจะเริ่มปลูกต้นไม้ก่อนหน้าฝน โดยเลือกวันที่ ๑ พฤษภาคมเป็นวันแรกของการปลูกต้นไม้ ถือเป็นการให้เกียรติวันแรงงานแห่งชาติ

?ผมยังปลูกต้นไม้เป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิมทั้งเช้าและเย็น มันเป็นนิสัยติดตัวไปแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสะดวกเหมือนเมื่อก่อน มีพวกสื่อต่างๆ ไปหาบ่อย ไม่ก็ต้องเข้ากรุงเทพฯ มารับรางวัล หรือเป็นวิทยากรเดินสายไปพูดเรื่องการปลูกต้นไม้ตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เวลาที่ไม่มีคนไปหา ไม่มีสื่อไปหา ผมก็ปลูกต้นไม้ทุกวัน วันไหนเป็นเทศกาลพิเศษ ผมจะขอความร่วมมือจากชาวบ้าน มาช่วยกันปลูกต้นไม้ ผมปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์ ไม่ได้ปลูกด้วยกล้าไม้ ถ้าปลูกด้วยกล้าไม้มันก็จะไม่ได้มากเหมือนอย่างนี้ เทคนิคการปลูกก็คือปลูกก่อนหน้าฝนและช่วงฝน ดินที่ปลูกต้องโปร่ง มีความชุ่มชื้น พอฝนตกมาเมล็ดก็งอก รากแก้วก็หยั่งลึก นี่ถ้าหากว่าไม่ถูกไฟไหม้ไปบ้าง มันก็จะเพิ่มกว่านี้อีกหลายเท่า แต่ก็ยังดีที่ผมปลูกต้นตาลซึ่งทนสภาพความแห้งแล้งได้ดี แล้วปลูกไม้อื่นๆ ทุกอย่างที่กินได้ อย่างขี้เหล็ก ต้นหว้า ต้นไม้บางชนิดลำต้นก็สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในอนาคต เช่น ต้นยางนา ต้นมะค่า

?คิดไปแล้วที่ผ่านมาน่าจะปลูกไปแล้วมากกว่า ๒ ล้านต้น คือเราเอาเมล็ดพันธุ์ไปหยอดตามขอบถนน ริมห้วยหนองคลองบึง วันละ ๔๐๐-๕๐๐ ต้นได้ ถนนเยอะยิ่งปลูกเยอะ ถ้าถนนเก่าเราก็ปลูกตาล วันหนึ่งปลูกไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ เมล็ด เพราะต้นตาลมันทนไฟ ไม่ค่อยตาย ยิ่งเดี๋ยวนี้ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านมากขึ้น ก็ยิ่งปลูกได้มากขึ้น เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคมที่ผ่านมา เฉพาะต้นคูนก็น่าจะร่วมหมื่นต้นแล้ว เพราะคนที่มาร่วมปลูกเยอะ เดี๋ยวนี้ประชาสัมพันธ์ง่าย คนเข้าใจมากขึ้น แต่ก่อนชาวบ้านนึกว่าผมบ้าจริงๆ ตอนนี้เขาแค่ล้อเล่นว่าผมบ้า

?ชีวิตผมไม่เปลี่ยน ผมคงเส้นคงวาเหมือนเดิม ปณิธานเริ่มต้นอย่างไรบั้นปลายชีวิตก็อย่างนั้น อยากฝากขอบคุณสื่อต่างๆ ที่ไปค้นหาคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ในพงหญ้ากลางทุ่ง ในถิ่นทุรกันดาร มาให้คนในสังคมรู้จัก ถ้าหากว่าใครเอาไปเป็นตัวอย่างได้ก็ดีสำหรับเขา แต่ส่วนตัวผมนั้นก็คงเหมือนเดิมแหละ อย่างไรก็อย่างนั้น เรียบง่ายและก็จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าสังขารจะไม่ไหว คิดว่ามรรคผลจากสิ่งที่เราทำมันเกิดกับชาวบ้าน ถ้าหากว่าทั้งประเทศมีคนทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ประเทศชาติก็จะเจริญ อยากจะฝากกับพี่น้องชาวชนบททั้งหลายว่าถ้าเลียนแบบผมได้ก็จะดี มรรคผลเกิดที่ตัวเขาเองไม่ได้เกิดที่ใคร ถ้าเขาทำเขาก็ได้ของเขาเอง จะช้าก็ไม่เป็นไร ผมชอบอุดมคติที่ว่าการสร้างฐานะของตนเองคือการสร้างฐานะของชาติ ถ้าหลายๆ คนมาร่วมกันทำให้ตัวเองเหมือนอย่างผมทำ มันก็มีพลัง?

สิ่งที่ติดตามมาอีกอย่างเมื่อกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ก็คือเริ่มมีนักการเมืองหลายคนวิ่งเข้าหา บางคนมาขอให้ช่วยเป็นหัวคะแนนในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกสมัยหน้า บางคนก็มาชวนให้เป็นสมาชิกพรรค แต่ดาบวิชัยยืนยันหนักแน่นว่าไม่เล่นการเมืองเด็ดขาด

เล่นแล้วสู้เขาไม่ได้หรอก เราก็ไม่ชอบอยู่แล้วด้วย เราไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าเล่นการเมือง มันจะมาสร้างความวุ่นวาย เล่นการเมืองเมื่อไรปวดหัวเมื่อนั้น เพราะว่าเราไม่อยากเอาใจใคร ผมว่าถ้ารักประเทศชาติจริงๆ ก็มาทำคล้ายๆ ผมนี่แหละ ให้มีความจริงใจต่อผืนแผ่นดิน แล้วก็มีความจริงใจต่อตัวเอง ประเทศชาติก็เจริญเองแหละ

ที่มา www.sarakadee.com

Share.

About Author