สรรพคุณและผลข้างเคียงฮว่านง๊อกหรือต้นพญาวานร

0

มีคนสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทางวิชาการของฮว่านง็อกมาเยอะค่ะ อยากจะบอกว่าปัจจุบันในไทยยังไม่มีข้อมูลนะคะ ได้ความว่าเนื่องจากเป็นสมุนไพรของเวียดนาม…

บริษัทยาในญี่ปุ่น อเมริกา คว้าไปแล้วค่ะ สำหรับคนที่ต้องการความแน่ใจทางวิชาการและใช้ในรูปยาแผนปัจจุบันคงต้องอดใจ รออีก หลายๆ ปีนะคะ กว่าจะทำมาให้เราซื้อ

สำหรับประเทศไทยไม่หวังอะไรหรอกค่ะ ดูจากเปล้าน้อย กวาวเครือขาว ไม่เห็นจะเข็ดกันสักที ตื่นตูมช่วงนึงแล้วเรื่องก็เงียบ รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญในการแก้ปัญหา วัวหายล้อมคอก ไม่มีการสนับสนุนการวิจัยอย่างแท้จริง (เงินทุน) คนไทยเราเก่งนะคะ บุคคลากรมีความสามารถ แต่เราไม่มีเงินค่ะ การวิจัยต้องใช้เวลา เงินทุน และอุปกรณ์ที่พร้อม ทันสมัย คำถาม รัฐบาลไทยสนุบสนุนตรงนี้หรือเปล่าคะ?

บริษัทยาต่างประเทศเค้าทุนหนา ถึงได้วิจัยแล้วจดสิทธิบัตรไปไงคะ เราก็อ้าปากหวอ ดูเค้าเอาไปกอด แล้วมาเต้นแร้งเต้นกาทีหลัง เปล่าประโยชน์ค่ะ มีตั้งนานไม่ทำไม่เห็นความสำคัญ คนไทยก็ควักกระเป๋าซื้อยาเค้ามาใช้ ที่เขียนมายืดยาวคือจะอธิบายว่าทำไมไม่มีข้อมูลวิชาการสนับสนุน แต่ทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการศึกษาบางส่วนค่ะ

สรรพคุณของต้นสมุนไพร (จากเอกสาร ฮานอย 2-9-1995 ถ่ายทอดจากต้นฉบับจริง)

รักษาคนสูงอายุ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำงานหนัก เกิดประสาทหลอน

รักษาไข้หวัด ความดันโลหิตสูง ท้องไส้ไม่ปกติ

รักษาบาดแผล เคล็ดขัดยอก กระดูกหัก

รักษาอาการทางเดินอาหารไม่ปกติ

รักษาอาการโรคกระเพาะอาหาร โรคเลือดออกในลำไส้ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

รักษาอาการคอพอก ตับอักเสบ

รักษาอาการไตอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่นข้น

รักษาอาการโรคมะเร็งปอด อาการปวดต่างๆที่ไม่ทราบสาเหตุ ให้รับประทานต่อไป 100-200 ใบ อาการจะหายขาด

รักษาโรคตาทุกชนิด เช่น ตาแดง ตาต้อ ตาห้อเลือด

รักษาอาการมดลูกหย่อนของหญิงคลอดบุตรใหม่ ให้ผลดี ช่วยให้มดลูกเข้าอู่

รักษาโรคความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ โรคประสาทอ่อนๆ

สามารถใช้กับสัตว์ได้ จากเอกสารระบุว่าใช้กับไก่ชนหลังจากชนไก่แล้วต้องการให้ไก่ฟื้นจากอาการบาด เจ็บ ให้ไก่กินใบของต้นสมุนไพร จะฟื้นตัวได้เร็ว

รายละเอียดในการใช้รักษาแต่ละโรค

โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล รับประทานครั้งละไม่เกิน 7 ใบ วันละ 2 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปจนครบ 50 ใบ

โรคเลือดออกในลำไส้ รับประทานใบสด 7-13 ใบ หรือคั้นเอาน้ำ วันละ 2 เวลา

โรคเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ เป็นบิด รับประทานครั้งละไม่เกิน 7 ใบ วันละ 2 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปประมาณ 100 ใบ

โรคตับอักเสบ คอพอก รับประทานครั้งละ 7 ใบ วันละ 3 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปจนครบ 150 ใบ

โรคไตอักเสบ ปวดเป็นประจำ รับประทานครั้งละ 3-4 ใบ วันละ 3 ครั้ง รับประทานไปจนครบ 30 ใบ

อาการท้องไส้ไม่ปกติ รับประทาน 7-14 ใบ 2 ครั้ง หาย

ปวดเมื่อยตามร่างกาย รับประทาน 7-14 ใบ 2 ครั้ง หาย

อาการปัสสาวะแสบ ปัสสาวะเป็นเลือด รับประทาน 14-21 ใบ โดยการคั้นเอาน้ำข้นๆรับประทาน

โรคตาแดง รับประทาน 7 ใบ และบด 3ใบ ปิดที่ตาเวลานอน 1 คืน จะหาย

โรคความดันโลหิตสูง จะลดทันทีเมื่อรับประทาน 5 – 9 ใบ

แก้โรคเบาหวาน ผู้ชายรับประทาน วันละ 7 ใบ ผู้หญิงรับประทานวันละ 9 ใบ ภายใน 90 วัน หาย

ใช้กับสัตว์ เช่น ไก่เหงา เป็นอหิวาต์ หรือ นิวคาสเซิ่ล ให้ไก่กิน 2-3 ใบ ไก่ชนหลังจากการชนแล้วให้กิน 2-3 ใบ

สตรีหลังคลอด รับประทานวันละ 1 ใบ ทุกวัน จะทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว

* ข้อมูลอ้างอิงจาก เล่าขานตำนานว่าน ลำปาง ปาซิโร หนังสือ เทคโนโลยีชาวบ้าน

หมายเหตุ – ควรใช้ใบสด สีเขียวไม่เหลือง ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป

– ต้นกล้าที่จำหน่าย ย้ายปลูกลงกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รดน้ำเช้าเย็น ต้นไม้ชอบที่ร่มไม่ชอบแสงแดด ปลูกต่ออีกประมาณ 2 เดือน จึงนำใบมาใช้ได้ค่ะ

ตอนนี้ ทางญี่ปุ่นและสหรัฐได้ทำการวิจัยเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ข้อมูลถูกเก็บเป็น ความลับ เพื่อทำการทดลองทางคลีนิค และจดสิทธิบัตร ก่อนจะออกมาเป็นยาให้พวกเราซื้อใช้กัน อยากจะแนะนำว่าเรามีต้นไม้ ใช้ใบสดประหยัดและคุ้มค่า แนะนำกินเป็นผักแนมน้ำพริกสำหรับโรคทั่วๆไป หรือปั่นใบเอาน้ำดื่ม สำหรับโรคมะเร็ง(เพราะใช้ทีเป็น100ใบ) ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นคำสอนที่ใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัยค่ะ

การกินเราใช้ใบสด เขียวๆ สีเหลืองไม่เอา มาเคี้ยวกิน3-4ใบ เช้า-เย็น

จากประสบการณ์ เคี้ยวแล้วมันเลี่ยน เมือกๆ คนกินยากๆ พาลจะอ้วกเอาง่ายๆ

เลยลองเอาใบฮว่านง็อกมากินกับน้ำพริกดูค่ะ ได้ผลแฮะ น้ำพริกดับความเลี่ยนได้

เลยกินได้ตามเป้า อีกวันลองกินกับลาบ ใช้ได้เหมือนกัน

สำหรับผู้สนใจเอาลงกระถางแล้วแตกยอดใหม่ไว ปลูกใช้ต้นเดียวคุ้มค่าสุดๆ

ฮว่านง็อกกับเบาหวา

ผู้เขียนเลี่ยงที่จะใช้คำว่ารักษา เพราะยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่ยืนยังยันว่า รักษาได้ ผู้เขียนอ้างอิงจากการใช้ในผู้ป่วยจริง และจากข้อมูลวิชาการที่มีการศึกษาแล้วบางส่วน พอสรุปได้ดังนี้

การใช้ในผู้ป่วยมะเร็ง ผล อาการปวดทุเลา คุณภาพชีวิตดีขึ้น

การใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลเน่าเปื่อยตามขา หรือทั่วร่างกาย ผลแผลแห้ง แผลดีขึ้น ผู้ป่วยที่ขาบวม อาการบวมลดลง ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง(อันนี้ต้องมีการศึกษาทางวิชาการยืนยัน) โดยรวม ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น

การใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง อาการปวดหัวหนักหัว หายไปหลังจากกินฮว่านง็อก (ก็ต้องศึกษาทางวิชาการอีก) ผลเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อลดอักเสบ อันนี้เป็นการวิจัยจากเวียดนามที่เค้าใช้ในการรักษาโรคท้องเดิน เจ็บคอ

เจตนาผู้เขียนเสนอให้เป็น 1 ทางเลือก ไม่ใช่ให้ใช้แทนยาแผนปัจจุบัน แนะนำให้ใช้คู่กันดังเช่น ใช้อาหารเป็นยา ผู้เขียนไม่สนับสนุนยาหม้อ ยาผีบอก ยาครอบจักรวาล แต่มันก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนที่จะเลือกใช้

กำลังใจ ความหวัง เป็นสิ่งสำคัญนะคะ

สมุนไพรฮว่านง็อก (Hoan Ngoc) เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศเวียดนาม ผู้นำเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นกลุ่มทหารผ่านศึกสมัยสงครามเวียดนาม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ว่านลิง, พญาวานร

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Pseuderatherum Platiferum

Family : Acanthaceae

ประเทศเวียดนามระบุสรรพคุณไว้ว่า รักษาอาการท้องเดิน(Diarrhoea),เจ็บคอ(sore throat)

ส่วนที่ใช้ : ใบสดเคี้ยวกินหรือคั้นกรองเอาน้ำ

สรรพคุณ : รักษาอาการปวด ต้านการอักเสบ ลดความดัน โรคเบาหวาน

ตัวยาสำคัญ อยู่ในใบสด มีฤทธิ์แก้ปวด ต้านการอักเสบได้ดี

รสใบจะจืด เคี้ยวๆไปจะเหมือนเป็นวุ้น เลี่ยน ถ้าทนได้รีบเคี้ยวแล้วดื่มน้ำตามค่ะ หรืออีกวิธีหนึ่งคือนำใบมาคั้นกับน้ำสะอาด หรือนำมาปั่น แล้วกรองเอาแต่น้ำข้นๆดื่มนะคะ การใช้ใบสดๆจะได้ตัวยาดีกว่านำไปต้มหรือผ่านความร้อนค่ะ

Share.

About Author